วันจันทร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2558

พาเวล เนดเว็ด

พาเวล เนดเว็ด "มิดฟิลด์ไดนาโมแห่งเช็ก"



 
ยืนหยัดในเส้นทางค้าแข้งมาเกือบๆ 20 ปี สุดท้าย พาเวล เนดเวด ปีกอัจฉริยะชาวเชกของยูเวนตุสก็ประกาศยืนยันว่าเขาจะแขวนสตั๊ดหลังจบฤดูกาลนี้แล้ว
เนดเวดเริ่มต้นค้าแข้งตั้งแต่ยังอายุน้อยๆ โดยได้เป็นเด็กฝึกหัดของทีมเยาวชนดูคลา ปราก ก่อนจะเซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพในปี 1991
อยู่กับดูคลาฯ ชุดใหญ่ได้แค่ปีเดียว สปาร์ต้า ปราก ทีมดังในลีกเชกก็เซ็นสัญญาคว้าตัวเนดเวดไปร่วมทัพ
ตลอด 4 ปีกับสปาร์ต้า ปราก มิดฟิดล์ผมทองทำผลงานยอดเยี่ยม ด้วยการพาต้นสังกัดค้าแชมป์ลีก  3 สมัย ฟอร์มการเล่นดังกล่าวเตะตาแมวมองจากอิตาลี ที่ดึงเขาไปเซ็นสัญญากับลาซิโอ ในปี 1996
nedved
เนดเวดประสบความสำเร็จทันทีที่เล่นให้ทีมอินทรีฟ้าขาว และมีส่วนร่วมทำให้ลาซิโอในยุคนั้นแข็งแกร่งที่สุดในรอบหลาย 10 ปี
เริ่มตั้งแต่คว้าแชมป์โคปปา อิตาเลีย ในฤดูกาล 1997-98 ต่อด้วยแชมป์ คัพ วินเนอร์ส คัพ ในซีซั่น 1998-99 ซึ่งเนดเวดเป็นคนยิงประตูชัยดับเรอัล มายอร์ก้า 2-1 ด้วย
เท่านั้นไม่พอ ในฤดูกาล 1999-00 อัจฉริยะผมทองยังพาลาซิโอคว้าดับเบิ้ลแชมป์ ทั้งเซเรีย อา และโคปปา อิตาเลียมาครองได้สำเร็จ
แต่น่าเสียดายที่ยุคทองของทัพเบียงโค่เชเลสเต้ต้องสะดุดลงด้วยปัญหาการเงินของสโมสรที่เสี่ยงล้มละลาย ทำให้ต้องขายนักเตะแถวหน้าของทีมออกไปเป็นว่าเล่น
เนดเวดเองก็หนีไม่พ้นเป็น 1 ในเพชรเม็ดงามของลาซิโอที่ต้องขายเปลี่ยนเป็นเงินมาช่วยกอบกู้สถานะของสโมสร
nedved
ยูเวนตุส ยื่นขอซื้อเขาไปร่วมทัพในปี 2001 ในราคาสูงถึง 41 ล้านยูโร เพื่อนำไปแทนที่ ซีเนอดีน ซีดาน จอมทัพเลือดน้ำหอมที่ยูเว่ขายไปให้เรอัล มาดริดในซัมเมอร์นั้น
แม้ดูเหมือนความคาดหวังและความกดดันจะสูง แต่เนดเวดรับมือกับสิ่งแวดล้อมใหม่ในรังม้าลายได้ดีเยี่ยม
นอกจากจะเล่นได้หลายตำแหน่ง ทั้งมิดฟิลด์ัตัวรุก และปีกซ้าย เนดเวดยังยกระดับฟอร์มของเขาให้ดีขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าในสีเสื้อเบียงโค่เนรี่
เขากลายเป็นตัวหลักของทีมม้าลายตั้งแต่ต้นและร่วมคว้าสคูเด๊ตโต้กับทีมตั้งแต่ฤดูกาลแรก ก่อนจะเดินหน้าซิวแชมป์มากมายทั้ง โคปปา อิตาเลีย อีก 2 สมัย และคัพ วินเนอร์ส คัพในปี 1998-99
แต่เรื่องน่าเสียดายคือเนดเวดไม่ได้มีโอกาสลงสนามในนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่เจอกับเอซี มิลาน ทีมร่วมลีกในปี 2003 ก่อนที่ยูเว่จะแพ้ดวลจุดโทษไปในที่สุด
อย่างไรก็ดี รางวัลปลอบใจของกองกลางเลือดเชกก็คือในปลายปีนั้น เขาได้รับเลือกให้ได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมยุโรป หรือบัลลง ดอร์
นอกจากนี้ยังเป็นมิดฟิลด์ยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเม้นท์ชปล.และแข้งยอดเยี่ยมเซเรีย อา อีกด้วย
สำหรับผลงานในทีมชาติ เนดเวดได้ประเดิมติดธงนัดแรกเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 1994 และได้เป็นกัปตันทีมในเวลาต่อมา
เนดเวดนำทัพเชกสร้างผลงานสุดเซอร์ไพรส์ทะลุเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศยูโร 2004 แต่สุดท้ายก็พ่ายกรีซ 1-0 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ชวดเข้าชิงอย่างน่าเจ็บใจ และกรีซก็ได้เป็นแชมป์ในเวลาต่อมา
หลังจากได้บัลลงดอร์มาเชยชม ดูเหมือนความสำเร็จจะห่างหายไปจากเนดเวด ในฤดูกาล2005-06 ยูเวนตุสเผชิญมรสุมครั้งสำคัญในการโดนปรับตกชั้นไปเล่นเซเรีย บีจากคดีติดสินบนล้มบอล
เล่นเอานักเตะแถวหน้าของทัพเบียงโค่เนรี่หลายราย โยกย้ายหนีทีมไป ขณะที่อนาคตของเนดเวดก็ได้รับการจับตามอง แต่สุดท้ายเจ้าตัวประกาศขอร่วมหัวจมท้ายไปกับทีมม้าลาย และสัญญากับแฟนๆ จะพาทีมเลื่อนชั้นกลับมาให้ได้
แน่นอนว่าเนดเวดกลายเป็นขวัญใจอันดับต้นๆ ของสาวกยูเวนิสต้า จากความจงรักภักดีและผลงานที่ยอดเยี่ยมตลอด และสุดท้ายเขาก็ช่วยให้ยูเว่คว้าแชมป์เซเรีย บี ตั้งแต่เนิ่นๆ และกลับสู่เซเรีย อาได้ในทันที
แม้เนดเวดจะมีความหมายกับยูเว่มากมาย แต่ก็มีข่าวลือลอดว่าเขาจะเลิกในปี 2008 เนื่องจากมีปัญหาบาดเจ็บรุมเร้าตลอด หลังจากที่หายกลับมา มีรายงานว่ามิดฟิลด์เชกจะใช้เวลาช่วงสุดท้ายในชีวิตค้าแข้งกับจูบิโล่ อิวาตะ ทีมในลีกยุ่น
แต่สุดท้ายเนดเวดก็เลือกต่อสัญญากับยูเว่อีกปี ทำให้ฤดูกาล 2008-09 กลายเป็นซีซั่นสุดท้ายในชีวิตนักเตะอาชีพของเจ้าตัว
น่าเสียดายที่ดูเหมือนว่าทีมม้าลายไม่อาจช่วยปิดฉากรูดม่านเวทีค้าแข้งของเนดเวดให้สมบูรณ์แบบด้วยการคว้าแชมป์ใดๆ ในปีนี้ แต่ถึงกระนั้น ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าเนดเวดคืออีกหนึ่งสุดยอดมิดฟิลด์แห่งทศวรรษ ที่เป็นแบบอย่างยอดเยี่ยมทั้งในและนอกสนาม
สไตล์การเล่น
เนดเว็ด เป็นนักเตะที่เล่นบอลฉลาด เทคนิคดี และขยัน ทุ่มเท มีวินัยอย่างยิ่ง จนได้รับฉายาว่าเป็นกองกลางพลังไดนาโม เขาเป็นกำลังสำคัญของทั้งสโมสร และทีมชาติ เป็นผู้นำในห้องแต่งตัวของทีม คอยกระตุ้นให้เพื่อนร่วมทีมฮึดสู้อยู่เสมอทั้งในและนอกสนาม
ลับเฉพาะกับ พาเวล เนดเว็ด
- ดาวเตะผมทอง ได้รับการยกย่องจาก เปเล่ ตำนานลูกหนังโลกชาวบราซิเลียน ให้เป็น 1 ใน 125 นักเตะยอดเยี่ยมของโลกที่ยังมีชีวิตอยู่
- เนดเว็ด ก็เคยกล่าวเอาไว้ว่าถ้าเขาเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพเมื่อไหร่จะกลับไปเปิดโรงเรียนสอนวิชาลูกหนังให้กับเด็กๆในบ้านเกิด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาเกิดมาเพื่อส่งเสริมวงการฟุตบอลเช็ก จริงๆ



ยืนหยัดในเส้นทางค้าแข้งมาเกือบๆ 20 ปี สุดท้าย พาเวล เนดเวด ปีกอัจฉริยะชาวเชกของยูเวนตุสก็ประกาศยืนยันว่าเขาจะแขวนสตั๊ดหลังจบฤดูกาลนี้แล้ว
เนดเวดเริ่มต้นค้าแข้งตั้งแต่ยังอายุน้อยๆ โดยได้เป็นเด็กฝึกหัดของทีมเยาวชนดูคลา ปราก ก่อนจะเซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพในปี 1991
อยู่กับดูคลาฯ ชุดใหญ่ได้แค่ปีเดียว สปาร์ต้า ปราก ทีมดังในลีกเชกก็เซ็นสัญญาคว้าตัวเนดเวดไปร่วมทัพ
ตลอด 4 ปีกับสปาร์ต้า ปราก มิดฟิดล์ผมทองทำผลงานยอดเยี่ยม ด้วยการพาต้นสังกัดค้าแชมป์ลีก  3 สมัย ฟอร์มการเล่นดังกล่าวเตะตาแมวมองจากอิตาลี ที่ดึงเขาไปเซ็นสัญญากับลาซิโอ ในปี 1996
เนดเวดประสบความสำเร็จทันทีที่เล่นให้ทีมอินทรีฟ้าขาว และมีส่วนร่วมทำให้ลาซิโอในยุคนั้นแข็งแกร่งที่สุดในรอบหลาย 10 ปี
เริ่มตั้งแต่คว้าแชมป์โคปปา อิตาเลีย ในฤดูกาล 1997-98 ต่อด้วยแชมป์ คัพ วินเนอร์ส คัพ ในซีซั่น 1998-99 ซึ่งเนดเวดเป็นคนยิงประตูชัยดับเรอัล มายอร์ก้า 2-1 ด้วย
เท่านั้นไม่พอ ในฤดูกาล 1999-00 อัจฉริยะผมทองยังพาลาซิโอคว้าดับเบิ้ลแชมป์ ทั้งเซเรีย อา และโคปปา อิตาเลียมาครองได้สำเร็จ
แต่น่าเสียดายที่ยุคทองของทัพเบียงโค่เชเลสเต้ต้องสะดุดลงด้วยปัญหาการเงินของสโมสรที่เสี่ยงล้มละลาย ทำให้ต้องขายนักเตะแถวหน้าของทีมออกไปเป็นว่าเล่น
เนดเวดเองก็หนีไม่พ้นเป็น 1 ในเพชรเม็ดงามของลาซิโอที่ต้องขายเปลี่ยนเป็นเงินมาช่วยกอบกู้สถานะของสโมสร
ยูเวนตุส ยื่นขอซื้อเขาไปร่วมทัพในปี 2001 ในราคาสูงถึง 41 ล้านยูโร เพื่อนำไปแทนที่ ซีเนอดีน ซีดาน จอมทัพเลือดน้ำหอมที่ยูเว่ขายไปให้เรอัล มาดริดในซัมเมอร์นั้น
แม้ดูเหมือนความคาดหวังและความกดดันจะสูง แต่เนดเวดรับมือกับสิ่งแวดล้อมใหม่ในรังม้าลายได้ดีเยี่ยม
นอกจากจะเล่นได้หลายตำแหน่ง ทั้งมิดฟิลด์ัตัวรุก และปีกซ้าย เนดเวดยังยกระดับฟอร์มของเขาให้ดีขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าในสีเสื้อเบียงโค่เนรี่
เขากลายเป็นตัวหลักของทีมม้าลายตั้งแต่ต้นและร่วมคว้าสคูเด๊ตโต้กับทีมตั้งแต่ฤดูกาลแรก ก่อนจะเดินหน้าซิวแชมป์มากมายทั้ง โคปปา อิตาเลีย อีก 2 สมัย และคัพ วินเนอร์ส คัพในปี 1998-99
แต่เรื่องน่าเสียดายคือเนดเวดไม่ได้มีโอกาสลงสนามในนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่เจอกับเอซี มิลาน ทีมร่วมลีกในปี 2003 ก่อนที่ยูเว่จะแพ้ดวลจุดโทษไปในที่สุด
อย่างไรก็ดี รางวัลปลอบใจของกองกลางเลือดเชกก็คือในปลายปีนั้น เขาได้รับเลือกให้ได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมยุโรป หรือบัลลง ดอร์
นอกจากนี้ยังเป็นมิดฟิลด์ยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเม้นท์ชปล.และแข้งยอดเยี่ยมเซเรีย อา อีกด้วย
สำหรับผลงานในทีมชาติ เนดเวดได้ประเดิมติดธงนัดแรกเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 1994 และได้เป็นกัปตันทีมในเวลาต่อมา
เนดเวดนำทัพเชกสร้างผลงานสุดเซอร์ไพรส์ทะลุเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศยูโร 2004 แต่สุดท้ายก็พ่ายกรีซ 1-0 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ชวดเข้าชิงอย่างน่าเจ็บใจ และกรีซก็ได้เป็นแชมป์ในเวลาต่อมา
หลังจากได้บัลลงดอร์มาเชยชม ดูเหมือนความสำเร็จจะห่างหายไปจากเนดเวด ในฤดูกาล2005-06 ยูเวนตุสเผชิญมรสุมครั้งสำคัญในการโดนปรับตกชั้นไปเล่นเซเรีย บีจากคดีติดสินบนล้มบอล
เล่นเอานักเตะแถวหน้าของทัพเบียงโค่เนรี่หลายราย โยกย้ายหนีทีมไป ขณะที่อนาคตของเนดเวดก็ได้รับการจับตามอง แต่สุดท้ายเจ้าตัวประกาศขอร่วมหัวจมท้ายไปกับทีมม้าลาย และสัญญากับแฟนๆ จะพาทีมเลื่อนชั้นกลับมาให้ได้
แน่นอนว่าเนดเวดกลายเป็นขวัญใจอันดับต้นๆ ของสาวกยูเวนิสต้า จากความจงรักภักดีและผลงานที่ยอดเยี่ยมตลอด และสุดท้ายเขาก็ช่วยให้ยูเว่คว้าแชมป์เซเรีย บี ตั้งแต่เนิ่นๆ และกลับสู่เซเรีย อาได้ในทันที
แม้เนดเวดจะมีความหมายกับยูเว่มากมาย แต่ก็มีข่าวลือลอดว่าเขาจะเลิกในปี 2008 เนื่องจากมีปัญหาบาดเจ็บรุมเร้าตลอด หลังจากที่หายกลับมา มีรายงานว่ามิดฟิลด์เชกจะใช้เวลาช่วงสุดท้ายในชีวิตค้าแข้งกับจูบิโล่ อิวาตะ ทีมในลีกยุ่น
แต่สุดท้ายเนดเวดก็เลือกต่อสัญญากับยูเว่อีกปี ทำให้ฤดูกาล 2008-09 กลายเป็นซีซั่นสุดท้ายในชีวิตนักเตะอาชีพของเจ้าตัว
น่าเสียดายที่ดูเหมือนว่าทีมม้าลายไม่อาจช่วยปิดฉากรูดม่านเวทีค้าแข้งของเนดเวดให้สมบูรณ์แบบด้วยการคว้าแชมป์ใดๆ ในปี2008/09 แต่ถึงกระนั้น ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าเนดเวดคืออีกหนึ่งสุดยอดมิดฟิลด์แห่งทศวรรษ ที่เป็นแบบอย่างยอดเยี่ยมทั้งในและนอกสนาม
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อ:พาเวล เนดเวด
วันเกิด:30 สิงหาคม 1972
เกิดที่:เชบ, เชกโกสโลวะเกีย (เดิม)
ตำแหน่ง:ปีกซ้าย, มิดฟิลด์ตัวรุก
ส่วนสูง:177 ซม.
สโมสรปัจจุบัน:ยูเวนตุส
หมายเลขเสื้อ:11
สโมสรอาชีพ
ปี
สโมสร
ลงเล่น
ประตู
1991 - 1992ดูคลา ปราก193
1992 - 1996สปาร์ต้า ปราก9823
1996 - 2001ลาซิโอ13833
2001 - ปัจจุบันยูเวนตุส24049
 
ทีมชาติ
1994 - 2006สาธารณรัฐเชก9118
เกียรติประวัติที่เคยได้รับ
ระดับ สโมสร
สปาร์ต้า ปราก : แชมป์เชกโกสโลวาเกีย ลีก 1 สมัย (1992-93), เช็ก กัมบรินัส ลีกา 2 สมัย (1993-94, 1994-95), เช็ก คัพ 1 สมัย (1996)

ลาซิโอ : กัลโช่ เซเรีย อา 1 สมัย (1990-00), โคปปา อิตาเลีย 2 สมัย (1997-98, 1999-00), ซูเปอร์ คัพ อิตาเลียน 2 สมัย (1998, 2000), คัพ วินเนอร์ส คัพ 1 สมัย (1998-99), ซูเปอร์ คัพ 1 สมัย (1999)

ยูเวนตุส : กัลโช่ เซเรีย อา 4 สมัย ((2001-02, 2002-03, 2004-05*, 2005-06*), ซูเปอร์ คัพ อิตาเลียน 2 สมัย (2002, 2003), แชมป์ เซเรีย บี 1 สมัย (2006-07)
* ยูเวนตุส โดนริบแชมป์ และปรับตกชั้น เนื่องจากมีการทุจริตในผลการแข่งขัน
ทีมชาติเช็ก
ฟุตบอลยูโร 1996 : รองแชมป์
ระดับส่วนตัว
ผู้เล่นยอดเยี่ยมเซเรียอาร์ : 2003
ผู้เล่นต่างชาติยอดเยี่ยมเซเรียอาร์: 2003
ผู้เล่นชาวยุโรปยอดเยี่ยม: 2003
ผู้เลนเชกยอดเยี่ยม: 1998, 2000, 2001, 2003, 2004
ผู้เล่นยอดเยี่ยมของนิตยสารเวิล์ด ซอคเกอร์: 2003
กองกลางยอดเยี่ยมในแชมเปี้ยนลีก: 2003
สปอร์สกี โนวอตนีย์ อวอร์ต: 2003
ผู้เล่นยอดเยี่ยมจาก อาร์เอสเอส:2003
ผู้เล่นยอดเยี่ยมระดับโลก: 2003
ผู้เล่นเชกยอดเยี่ยมแห่งทศวรรษ: 2003
ติดทีมแห่งปีของยูฟ่า: 2003, 2004, 2005
ผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีประจำเวิร์ลด ซอคเกอร์ ไดเจสท์: 2003
รางวัลเท้าทองคำ: 2004

วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2558

ประวัติ Éric Daniel Pierre Cantona

เอริก ดาเนียล ปีแยร์ ก็องโตนา (ฝรั่งเศสÉric Daniel Pierre Cantona; เกิดเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2509 (ค.ศ. 1966) ที่เมืองมาร์แซย์ ประเทศฝรั่งเศส เล่นฟุตบอลอาชีพกับสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเป็นสโมสรสุดท้าย ก็องโตนาประสบความสำเร็จได้แชมป์พรีเมียร์ลีก ถึง 4 สมัย ภายในเวลา 5 ปี รวมไปถึงการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกและฟุตบอลถ้วยเอฟเอคัพ ภายในฤดูกาลเดียวกันอีกสองสมัย
ในปี พ.ศ. 2543 ได้รับการโหวตจากแฟนทีมให้เป็นนักฟุตบอลแห่งศตวรรษ แฟน ๆ ยังคงกล่าวถึงก็องโตนา โดยเรียกเขาว่า "เอริกเดอะคิง" จนถึงทุกวันนี้

การเล่นฟุตบอลในฝรั่งเศส[แก้]

ก็องโตนาเริ่มเล่นฟุตบอลกับสโมสรออแล็งปิกเดอมาร์แซย์ เป็นคนที่ค่อนข้างหัวเสียง่าย มีอยู่ครั้งหนึ่งในขณะที่ลงแข่งขันนัดกระชับมิตรกับทีมตอร์เปโดมอสโก เขาถูกเปลี่ยนตัวออก แล้วได้แสดงอาการไม่พอใจด้วยการฉีกเสื้อแล้วขว้างทิ้ง เขาถูกลงโทษห้ามลงแข่งเป็นเวลา 1 เดือน อีก 2-3 สัปดาห์หลังจากนั้น เขาก็ได้ออกมากล่าวโจมตีผู้ฝึกสอนทีมชาติฝรั่งเศสทางโทรทัศน์
ก็องโตนาย้ายสู่บอร์โดด้วยสัญญายืมตัว หลังจากนั้นก็ได้ย้ายไปเล่นให้กับมงเปอลีเยซึ่งเขาได้สัมผัสกับถ้วยแชมป์กุปเดอฟร็องส์เป็นครั้งแรก ก่อนจะถูกมาร์แซย์ดึงตัวกลับมา แต่เขาก็ยังถูกขายให้กับสโมสรนีม
เขาถูกห้ามลงแข่งขันอีกครั้งเป็นเวลา 1 เดือน จากการขว้างบอลใส่ผู้ตัดสิน และก็องโตนาก็ให้สัมภาษณ์วิจารณ์คำตัดสินอีก จึงถูกลงโทษเพิ่มเป็น 2 เดือน และนี่เองเปรียบเสมือนฟางเส้นสุดท้ายของก็องโตนา เขาจึงตัดสินใจแขวนสตั๊ด
ต้องขอบคุณแฟนฟุตบอลพันธุ์แท้รายหนึ่ง ที่ชักจูงให้ก็องโตนากลับมาเริ่มต้นเล่นฟุตบอลอีกครั้งที่ประเทศอังกฤษ

การเล่นฟุตบอลในอังกฤษ[แก้]

ภาพก็องโตนาจากโฆษณาของไนกี้ ข้อความในภาพเขียนว่า ปี '66 คือปีที่ยิ่งใหญ่ของฟุตบอลอังกฤษเนื่องจากเป็นปีที่ก็องโตนาเกิด
หลังจากมาทดสอบฝีเท้ากับสโมสรเชฟฟีลด์เวนส์เดย์ ก็องโตนาก็ได้ย้ายเข้าสู่สโมสรลีดส์ยูไนเต็ดในปี พ.ศ. 2535 ก็องโตนาพายูงทองเถลิงบัลลังก์แชมป์ดิวิชัน 1 (เดิม) ได้ทันทีในฤดูกาลนั้นเอง (1991-92) แต่ในเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน ก็องโตนาก็ย้ายสโมสรอีกครั้งหนึ่ง โดยเข้าสังกัดแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดด้วยค่าตัวที่ปีศาจแดงจ่ายให้กับลีดส์เพียงแค่ 1.2 ล้านปอนด์ เท่านั้น
ขณะนั้นทีมปีศาจแดงกำลังประสบกับปัญหาปืนฝืด ไม่สามารถทำประตูคู่แข่งได้เนื่องมาจากการที่สโมสรขายมาร์ก รอบินส์ และดีออน ดับลิน ซึ่งประสบปัญหาการบาดเจ็บออกไป
อย่างไรก็ตาม ก็องโตนาปรับตัวเข้ากับสโมสรแห่งใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เขาสามารถทำประตูและส่งให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ
2 ฤดูกาลต่อมา แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดประสบความสำเร็จอย่างน่าทึ่ง โดยคว้าแชมป์ลีกในปี พ.ศ. 2536 และดับเบิลแชมป์ในปี พ.ศ. 2537 ซึ่งก็องโตนาทำประตูจากลูกจุดโทษสองประตูถล่มเชลซี 4-0 ในนัดชิงชนะเลิศของเอฟเอคัพ
ก็องโตนาก่อเรื่องน่าอายขึ้นในเกมเยือนคริสตัลพาเลซ เดือนมกราคม ฤดูกาลถัดมา (พ.ศ. 2538) เมื่อกระโดดถีบใส่แมตทิว ซิมมอนส์ แฟนบอลทีมเจ้าบ้าน หลังจากโดนผู้ตัดสินไล่ออกจากสนาม
ในงานแถลงข่าวภายหลังเหตุการณ์ดังกล่าว กลุ่มนักข่าวพากันมารอสัมภาษณ์ก็องโตนา เขาได้เดินเข้ามานั่งก่อนจะกล่าวว่า เมื่อนกนางนวลบินตามเรือประมง... ก็เพราะพวกมันคิดว่าปลาซาร์ดีนจะถูกโยนลงมาในทะเล เพียงเท่านี้ก็ลุกออกจากห้องไป สร้างความงุนงงให้กับกองทัพนักข่าวทั้งหลาย
ก็องโตนาถูกศาลชั้นต้นสั่งลงโทษจำคุกเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ก่อนที่ศาลอุทธรณ์จะเปลี่ยนบทลงโทษให้เป็นทำงานบริการสังคมเป็นเวลา 120 ชั่วโมงแทน นอกจากนี้สมาคมฟุตบอลอังกฤษยังสั่งลงโทษก็องโตนาห้ามลงสนามจนกว่าจะถึงเดือนตุลาคมอีกด้วย
มีการคาดการณ์กันไปต่าง ๆ นานา ว่าก็องโตนาอาจจะยุติการค้าแข้งที่อังกฤษหลังจากพ้นโทษแบน แต่อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เป็นผู้ที่ชักจูงให้ก็องโตนาอยู่กับทีมต่อไป ซึ่งในช่วงต้นฤดูกาลนั้นสโมสรได้ขายผู้เล่นสำคัญบางคนออกไปและเลื่อนชั้นนักเตะจากทีมเยาวชนขึ้นมาแทน ทำให้ความหวังในการคว้าแชมป์ไม่สู้จะดีนักเช่นเดียวกับในปี พ.ศ. 2535
ก็องโตนายิงประตูจากลูกจุดโทษในเกมพบกับลิเวอร์พูลได้ในนัดประเดิมสนามหลังจากพ้นโทษ และประตูของเขาก็ช่วยให้สโมสรคว้าแชมป์ลีกได้หลังจากต้องเป็นฝ่ายไล่ตามหลัง 10 คะแนนตั้งแต่เดือนธันวาคมเป็นต้นมา และเป็นทีมแรกที่สามารถคว้าดับเบิลแชมป์ได้สองสมัยติดต่อกันหลังจากก็องโตนาทำประตูชัยได้ในนัดชิงชนะเลิศเอฟเอคัพ
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดคว้าแชมป์ได้อีกครั้งในฤดูกาล 1996-97 ทำให้ก็องโตนาได้แชมป์ลีกไปแล้วถึง 6 ครั้งในรอบ 7 ปี ยกเว้นเพียงปีที่เขาโดนแบนเท่านั้น หลังฤดูกาลจบลง ก็องโตนาก็สร้างความประหลาดใจให้กับแฟนบอลด้วยการประกาศเลิกเล่นในขณะที่อายุเพิ่งจะ 30 ปีเท่านั้น ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานได้เปลี่ยนไปเล่นฟุตบอลชายหาดให้กับทีมชาติฝรั่งเศส โดยเป็นกัปตันทีมด้วย
ในปี พ.ศ. 2547 ก็องโตนาได้ให้สัมภาษณ์อีกครั้งโดยได้กล่าวว่า ผมภูมิใจที่แฟน ๆ ยังคงร้องเรียกชื่อผม แต่ผมกลัวว่าพรุ่งนี้พวกเขาอาจจะไม่ทำเช่นนั้น ผมกลัวเพราะผมรักมัน และทุก ๆ สิ่งที่คุณรัก คุณก็ต้องกลัวที่จะเสียมันไป คำพูดนี้ได้ถูกนำมาประกอบลงไปในวอลเปเปอร์ของสโมสรที่ให้แฟน ๆ ในเว็บไซต์ของสโมสร

การเล่นให้กับทีมชาติฝรั่งเศส[แก้]

ก็องโตนาเป็นที่ชื่นชอบของมีแชล ปลาตีนี ซึ่งเป็นผู้จัดการทีมชาติในขณะนั้น ซึ่งปลาตีนีพูดถึงก็องโตนาว่า เขาจะต้องเลือกก็องโตนาเป็นหนึ่งในขุนพลเลอเบลออย่างแน่นอน ถ้ายังเล่นได้อย่างสุดยอด ปลาตีนีเป็นอีกคนหนึ่งที่ริเริ่มความคิดการเล่นฟุตบอลในอังกฤษให้กับก็องโตนา
ภายหลังล้มเหลวจากศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1992 ที่ประเทศสวีเดน ปลาตีนีก็ได้ลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งขณะนั้นฝรั่งเศสมีคู่ศูนย์หน้า คือ ก็องโตนาและฌ็อง-ปีแยร์ ปาแป็ง ผู้ที่เข้ามารับงานต่อจากปลาตีนีก็คือ เฌราร์ อูลีเย
ฝรั่งเศสไม่สามารถผ่านรอบคัดเลือกไปเล่นฟุตบอลโลกที่สหรัฐอเมริกาได้ในอีกสองปีต่อมา หลังจากที่แพ้บัลแกเรียคาบ้าน 2 ต่อ 1 ซึ่งฝรั่งเศสต้องการเพียงแค่ผลเสมอ ในเกมนั้น ดาวีด ฌีโนลา ทำบอลเสียนำไปสู่การได้ประตูชัยของบัลแกเรียโดยเอมิล กอสตาดีนอฟ ทำให้ก็องโตนาโกรธฌีโนลามาก หลังเกมนั้น อูลีเยลาออกจากตำแหน่ง ทำให้เอเม ฌาแก เข้ามาสานงานต่อ
สองปีต่อมา ฝรั่งเศสผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1996 ที่อังกฤษได้สำเร็จ ซึ่งฌาแกได้ปรับปรุงทีมโดยใช้ผู้เล่นสายเลือดใหม่สองสามคน หนึ่งในนั้นก็คือกองกลางจอมทัพซึ่งมีลีลาการเล่นที่น่าตื่นตาตื่นใจและมีความเป็นผู้นำสูงอย่างซีเนดีน ซีดาน โดยก็องโตนาถูกหมางเมิน
หลายฝ่ายต่างคาดการณ์กันว่า ก็องโตนาคงจะหลุดจากทีมชาติชุดลุยบอลโลกที่ประเทศตัวเองอย่างแน่นอน และมีข่าวเล็ดลอดออกมาว่า ก็องโตนาประกาศเลิกเล่นตอนสิ้นปี พ.ศ. 2542 ก็เพราะว่าต้องการหลีกเลี่ยงแรงกดดันที่ฌักเก้ต์และทีมชาติฝรั่งเศสต้องเผชิญจากการที่ไม่เลือกเขาร่วมทีม
ฝรั่งเศสสามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกที่ประเทศตัวเองได้สำเร็จ โดยซีดานทำสองประตูในนัดชิงชนะเลิศกับบราซิล

ชีวิตหลังเลิกค้าแข้ง[แก้]

หลังจากแขวนสตั๊ดแล้ว ก็องโตนาก็หันไปเป็นนักแสดงในประเทศฝรั่งเศส นอกจากเป็นนักแสดงแล้ว เขายังเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ขนาดสั้นด้วย ก็องโตนาเริ่มเป็นที่รู้จักในฐานะนักแสดงจากภาพยนตร์เรื่อง เอลิซาเบท ที่เขาเล่นเป็นทูตชาวฝรั่งเศส นอกจากนี้เขาก็ยังรับงานนายแบบโฆษณาให้กับบริษัทไนกี้ด้วย
ในช่วงก่อนการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2002 (พ.ศ. 2545) ก็องโตนาก็เล่นภาพยนตร์โฆษณาให้กับไนกี้ร่วมกับตีแยรี อ็องรีโรเบร์ตู การ์ลูสโรนัลโด และลูอีช ฟีกู โดยก่อนหน้านี้ เขาก็เคยเล่นภาพยนตร์โฆษณาให้กับไนกี้ในประเทศอังกฤษ ในการปรากฏตัวร่วมกับเอียน ไรต์สตีฟ มักแมนามัน และร็อบบี ฟาวเลอร์ด้วย

สถิติ[แก้]

สถิติสโมสร
ฤดูกาลสโมสรดิวิชันลีกคัพลีกคัพลีกทวีปอื่น ๆทั้งหมด
แข่งประตูแข่งประตูแข่งประตูแข่งประตูแข่งประตูแข่งประตู
ฝรั่งเศสลีกกุปเดอฟร็องส์กุปเดอลาลีกยุโรปอื่น ๆรวม
1983–84โอแซร์ลีกเอิง200020
1984–8552000052
1985–8670001080
1985–86มาร์ตีกลีกเดอ15400154
1986–87โอแซร์ลีกเอิง3613444017
1987–8832851213910
1988–89มาร์แซย์22500225
1988–89บอร์โด1161000126
1989–90มงเปอลีเย3310643914
1990–91มาร์แซย์1880031219
1991–92นีม17200172
อังกฤษลีกเอฟเอคัพลีกคัพยุโรปแชริตีชีลด์รวม
1991–92ลีดส์ยูไนเต็ดเฟิสต์ดิวิชัน1530000153
1992–93พรีเมียร์ลีก136001052132011
1992–93แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด229100000239
1993–943418545142104925
1994–952112110020112514
1995–9630147510003819
1996–9736113000103115015
ลีกฝรั่งเศส198581696222069
ลีกอังกฤษ171731710712174522096
รวมทั้งหมด36913133197127945440165